หมีน่ารักๆๆๆ มาแล้วจ้า
( ดูดีๆ นะ ว่าหน้าตาเหมือนใคร )
“หมี” สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ยืนและเดินด้วยขาหลังได้ ประสาทการดมกลิ่นจะดีกว่าประสาทตาและหู กินพืชและสัตว์ ซึ่งในโลกนี้มีหมีที่มีชื่อเสียงโด่งดังและเป็นที่รู้จักประมาณ 8 ชนิด ในประเทศไทยเองมี 2 ชนิด ได้แก่ หมีควายและหมีหมา“หมีควาย” (Asiatic black bear)มีขนยาวหยาบอันโดดเด่นพร้อมด้วยสัญลักษณ์รูปพระจันทร์เสี้ยวที่ใต้คอ ส่วน “หมีหมา”(sun bear)คือหมีขนาดเล็กที่สุด ที่อาศัยอยู่ในป่าที่ลุ่มแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แม้ว่าจะแตกต่างในรูปลักษณ์ แต่หมีหมานั้นกลับมีลักษณะที่คล้ายคลึงกับหมีสายพันธุ์์อื่นๆ หลายประการเช่น เมื่อหมีเดิน ส้นเท้าและปลายเท้าจะสัมผัสพื้นทั้งคู่ พวกมันเดินตรงได้ด้วยขาหลังเพื่อคอยมองอันตราย มองหาอาหารและต่อสู้ ซึ่งหมีทุกตัวจะว่ายน้ำได้
หมีแต่ละสายพันธุ์ทั่วโลกจะถูกความหลากหลายของภูมิประเทศเป็นตัวกำหนดลักษณะหน้าตารูปร่าง “หมีขั้วโลก” (polar bear) คือหนึ่งในบรรดาสัตว์กินเนื้อขนาดใหญ่ที่สุดบนผืนแผ่นดิน มันมีความสูงประมาณ 3 เมตร มีขนที่ดูดซับความร้อนและใช้ชีวิตอยู่ในบริเวณอาร์คติคเซอร์เคิล เพียงแห่งเดียวเท่านั้น ส่วน“หมีสีน้ำตาล” หรือ “หมีกริซลี่” (grizzly bear) นั้นพวกมันจะใช้ชีวิตอยู่ในบริเวณอุณหภูมิที่อบอุ่นกว่าหมีขั้วโลก เช่นในแถบยุโรปและอเมริกาเหนือ แต่หมีที่อาศัยอยู่มากในอเมริกาเหนือและมีจำนวนมากที่สุดในโลกคือ “หมีดำ” (black bear)และ“หมีสเปคตาเคิ้ล” (spectacled bear) คือนักปีนต้นไม้ในป่าที่หนาทึบแห่งอเมริกาใต้“หมีสโลธ” (sloth bear) มีถิ่นกำเนิดและอาศัยในประเทศอินเดียและศรีลังกา และสุดท้ายคือ“แพนด้ายักษ์” (giant panda) ที่กินต้นไผ่เป็นอาหารหลักของประเทศจีน หมีทุกตัวมีประสาทที่เฉียบคม ประสาทการดมกลิ่นนั้นอาจเทียบได้กับสุนัขล่าเนื้อ แม้ว่าหูของพวกมันจะมีขนาดเล็ก แต่พวกมันก็มีประสาทการฟังที่ชัดเจน หมีบางตัวสามารถแยกแยะระหว่างลูกเบอรี่สุกและไม่สุกได้ ริมฝีปากของหมีส่วนใหญ่จะแยกออกมาไม่ติดกับเหงือก ซึ่งยืดหยุ่นมากพอที่จะงับและเด็ดผลไม้ลูกเล็กๆ ได้ หมีบางตัวสามารถปอกเปลือกองุ่นได้ด้วยริมฝีปาก และหมีทุกตัวจะมีกรงเล็บที่หดไม่ได้ ในบางสายพันธุ์อาจมีความยาวถึง 6 นิ้วเลยทีเดียว หมีแต่ละชนิดนั้นมีจุดเด่นและพฤติกรรมแตกต่างกันมาก อย่างหมีสีน้ำตาล มันเป็นนักล่าที่ว่องไวด้วยความเร็วกว่า 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และกินเนื้อเป็นอาหาร ส่วนอาหารของ“หมีสเปคตาเคิ้ล”นั้นเป็นผักถึง 80 เปอร์เซ็นต์ แหล่งอาหารที่โปรดปรานคือกล้วยไม้ป่า ทำให้หมีชนิดนี้ต้องใช้พละกำลังและทักษะในการปีนเพื่อนำลงมาที่พื้นเพื่อที่มันจะได้ลิ้มรสชาติของกล้วยไม้ป่า “ปลวก” เป็นอาหารที่โปรดปรานของ “หมีสโลธ” มันจะใช้กรงเล็บที่ยาวเพื่อขุดคุ้ยหาและเมื่อขุดลงไปถึงรัง มันจะใช้ริมฝีปากเป่าฝุ่นออกไป จากนั้นก็ปิดรูจมูกแล้วเริ่มดูดกินปลวกเสียงดัง“หมีดำ” จะกินเนื้อเป็นบางโอกาส เพราะอาหารหลักของมันคือผลไม้ ถั่ว และแมลง แต่อาหารเหล่านี้มีคุณค่าน้อยกว่าเนื้อและใช้เวลามากในการเก็บ ทำให้เจ้าหมีต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการหากิน ส่วนโซปเบอรี่ (Soapberries) เป็นอาหารจานโปรดของหมีดำอเมริกัน พวกมันจะเลือกเอาแต่เฉพาะผลและหลีกเลี่ยงใบที่มีคุณค่าน้อย สายพันธุ์หมีที่เก่าแก่ที่สุดในปัจจุบันคือ แพนด้ายักษ์ มันเป็นหนึ่งในบรรดาสัตว์ที่ใกล้จะสูญพันธุ์ซึ่งผิดกับ “หมีดำอเมริกัน” มันเป็นหมีที่เอาตัวรอดได้ดีที่สุดจนถึงทุกวันนี้ด้วยประชากรที่มากถึง750,000 ตัว แต่จำนวนของ “หมีสีน้ำตาล” กลับลดลงอย่างรวดเร็วจนเหลือเพียงแค่ 150,000ตัว เท่านั้น และยังไม่มีการประเมินที่แม่นยำสำหรับ ”หมีควาย” ส่วน “หมีขั้วโลก” ตอนนี้มีจำนวนประมาณ 40,000 ตัว ส่วน“แพนด้ายักษ์” ใกล้จะสูญพันธุ์มากกว่าหมีสายพันธุ์อื่น แต่ “หมีสเปคตาเคิ้ล” มีอยู่ไม่ถึง2,000 ตัว สำหรับ “หมีสโลธ” มีประมาณ 1,000 – 10,000 ตัว และ”หมีหมา”นั้นไม่มีใครรู้จำนวนแน่ชัด ตอนนี้หมีทุกสายพันธุ์จะต้องเร่งขีดความสามารถในการปรับตัว ที่นำพาพวกมันมาให้ไกลกว่านี้เพื่อที่จะทำให้สายพันธุ์ของพวกมันยังคงมีชีวิตรอดอยู่ต่อไป
ขอขอบคุณ
โอ้โห!หมีแพนดาน่ารักจัง
ตอบลบหน้าตาเหมือนเจ้าของเลย
ตอบลบหมีน่ารัก แต่คนเม้นต์ให้น่ารักกว่า
ตอบลบเจ้าของบล็อก หน้าตาคล้ายหมีแพนด้าเข้าไปทุกที
ตอบลบหมีน่ารักเหมือนคนทำบล้อกเลยนะ
ตอบลบลูกหรือน้องชายที่อยู่ในโปรไฟล์
ตอบลบน่ารักนะ
หมีแพนด้า อิ อิ
หน้าเหมือนเจ้าของบล้อกเลย
ตอบลบเห็นด้วยกับคุณสมศักดิ์
ตอบลบน่ารักได้อีก
ตอบลบน่ารัก
ตอบลบน่ารักกว่าเจ้าของนิดนึง
ตอบลบหมีแพนด้านี่ ต้องเอาไปยำเปรี้ยวหวาน อร่อย ๆๆ
ตอบลบโอ้โห้...นี่หรือหมีแพนด้า
ตอบลบเฮ้ย!! นั่นมันตัวอะไรอ่ะ...
ตอบลบน่ารักดี
ตอบลบหมีน่ารักมากแต่น้องหมีนี่ซิ
ตอบลบอยากไปเทียวจัง (มันอยู่ที่ไหนว่ะ)
ตอบลบ